บทสัมภาษณ์หลังเกมของดาวรุ่งวัย 19 ปีชาวอังกฤษที่รับบทเป็นฮีโร่ยิงประตูชัยพาต้นสังกัด เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เฉือนชนะ อาร์เซน่อล 1-0 เมื่อครั้งฤดูกาล 2018/2019 ซึ่งประตูที่เขาทำได้นับว่าเป็นประตูแรกในสีเสื้อแดงเลือดหมูของเจ้าตัวในฐานะผู้เล่นชุดใหญ่อีกด้วย ส่งผลให้ลูกยิงลูกนั้นเป็นการทำประตูที่อยู่ในความทรงจำของเขาเสมอมาในแง่ของการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

หลังจากวันนั้นเขาก็เริ่มเติบโตบนเส้นทางย่านถนนกรีนสตรีท ฝั่งลอนดอนตะวันออกในฐานะนักเตะกองกลางที่ถูกคาดหวังว่าจะกลายเป็นกำลังหลักของ escapeSingleQuotทัพขุนค้อนescapeSingleQuot ในอนาคต จนเมื่อกาลเวลาย่างก้าวเข้าสู่ปัจจุบัน เด็กหนุ่มที่เก็บสะสมชั่วโมงบินมาอย่างต่อเนื่อง เขาพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นถึงคุณภาพด้วยฝีเท้าอันยอดเยี่ยมกับตำแหน่งมิดฟิลด์เชิงรับที่ยกระดับความเก่งกาจของตัวเองจนชื่อของเขาถูกพูดถึงในแวดวงฟุตบอลทั่วโลก

โดยในเวลานี้เขาประสบความสำเร็จในชีวิตนักฟุตบอลขั้นแรกด้วยการก้าวขึ้นมากลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นคนสำคัญของทีมชาติอังกฤษและยังเป็นกัปตันทีมของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่สามารถพาทีมคว้าแชมป์ในระดับเมเจอร์อย่าง ถ้วยยูโรป้า คอนเฟอร์เรนซ์ ลีก นับว่าเป็นกัปตันทีมคนที่ 3 เท่านั้นที่สามารถพาสโมสรคว้าแชมป์เมเจอร์ได้ต่อจาก บ๊อบบี้ มัวร์ และ บิลลี่ บอนด์ 2 ตำนานของทีม จนแฟนบอลต่างออกมาชื่นชมกันยกใหญ่

และในซัมเมอร์ปี 2023 นี้ ดูเหมือนว่าโชคชะตาก็โคจรพาให้เขากลับมาพบเจอกับทีมที่เขาสามารถทำประตูแรกในฐานะนักฟุตบอลอาชีพอีกครั้ง เมื่อเขากำลังจะกลายเป็นนักเตะใหม่ของ อาร์เซนอล ด้วยค่าตัวที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสรถึง 100+5 ล้านปอนด์ ซึ่ง มิเกล อาร์เตต้า คือคนที่ผลักดันให้ดีลนี้เกิดขึ้น ด้วยความชื่นชอบและเป็นแฟนตัวยงของนักเตะ โดยเทรนเนอร์ชาวสเปนหวังเอาไว้อย่างยิ่งว่า ดีแคลน ไรซ์ จะเป็นกุญแจสำคัญของทีมที่เขาหมายมั่นปั้นมือและพร้อมจะไล่ล่าความสำเร็จกลับมาประดับบนตู้โชว์ของสโมสรให้ได้อีกครั้ง

ตอนนี้เป็นที่รู้กันว่าดีลนี้ใกล้จะเรียบร้อยทั้งหมดแล้ว เหลือเพียงการประกาศเปิดตัวว่าที่ผู้เล่นหมายเลข 41 อย่างเป็นทางการเท่านั้น แต่พอเอาเข้าจริงๆไอ้แฟนบอลอย่างผมกลับรู้สึกไม่ชินกับการใช้เงินของสโมสรในตลาดรอบนี้เลย เห้อ! ชีวิตคนรวยมันเป็นแบบนี้นี่เอง

เขียนโดย The Lite Team.